ฤกษ์เดินทาง
ฤกษ์เดินทาง เกจิอาจารย์ท่านให้ดู ฤกษ์และทิศทางต่อไปนี้
ก. ทิศผีหลวง
ข. ทิศเทพเจ้า
ค. ทิศหลาวเหล็ก
ง. ยามอุบากอง (พม่าแหกคุก)
ดังจะได้นำมากล่าวไว้เป็นอย่าง ๆ เรียงตามลำดับดังต่อไปนี้
ก. ทิศผีหลวง
วันอาทิตย์ ผีหลวงเป็น ม้าขาว อยู่ทิศ พายัพ
วันจันทร์ โค (วัว) บูรพา
วันอังคาร ราชสีห์ อีสาน
วันพุธ ยักษ์ อุดร
วันพฤหัสบดี กระบือ (ควาย) ทักษิณ
วันศุกร์ สุกร (หมู) ปัจจิม
วันเสาร์ ช้างสาร อาคเนย์
อนึ่ง โหราศาสตร์ท่านผูกเป็นกลอนไว้ มีอย่างนี้
วันอาทิตย์ ผีหลวงเป็นม้าขาว เนตรแดงแสงดาวโรหิณี
อยู่ฟากฟ้าทิศพายัพ ยืนหยัดดังราชสีห์
วันจันทร์แปรสถานเป็นคาวี ถิ่นที่สถิตบูรพา
ภุมวารบันดาลเพศเป็นไกรสร เที่ยวร่อนเร่อยู่ทิศอีสาน
พุธวารบันดาลเป็นยักษ์ฉกรรจ์ แบกกระบองยืนยันอยู่อุดร
พฤหัสทักษิณสถิต เบือนบิดรูปเป็นกาสร
ศุกร์ประจิมสถาพร แปลงกายเป็นสุกรกำเริบฤทธิ์
เสาร์หลวงเป็นคชศักดิ์ สำนักในอาคเนย์เป็นที่สถิต
แม้ยาตราบ่ายหน้าให้ต้องทิศ ได้คิดเลี่ยงหลีกจึงยาตรา
ข. ทิศเทพเจ้า
วันอาทิตย์ เทวดาอยู่ประจำทิศ อาคเนย์
วันจันทร์ ปัจจิม
วันอังคาร หรดี
วันพุธ ทักษิณ
วันพฤหัสบดี อุดร
วันศุกร์ บูรพา
วันเสาร์ พายัพ
ค. ทิศหลวงเหล็ก
วันอาทิตย์ เทวดาอยู่ประจำทิศ ตะวันตก
วันจันทร์ ตะวันออก
วันอังคาร เหนือ
วันพุธ เหนือ
วันพฤหัสบดี ใต้
วันศุกร์ ตะวันตก
วันเสาร์ ตะวนออก
ง. ยามอุบากอง (พม่าแหกคุก)
ประวัติยามอุบากอง
คำว่า อุบากอง เป็นชื่อนายทหารเอกของพม่า ซึ่งเข้ามาตีไทยในสมัยต้นรัชกาล กรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง มีประวัติที่ปรากฏในประวัติศาสตร์อย่างนี้
อุบากอง เป็นนายทหารยศขุนพล ได้คุมกำลังเข้าโจมตีเมืองเชียงใหม่ เมื่อ แรม 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเมีย พ ศ.2340 คราวที่พระเจ้าปะดุงยก 9 ทัพมาตีไทยนั่นเอง แต่ด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฏ อุบากองถูกฝ่ายไทยจับกุมตัวได้ คราวนั้น พ่อเมืองเชียงใหม่ ได้คุมตัวอุบากองส่งลงมายังกรุงเทพฯ เมื่อขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเมีย พ.ศ.2340 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงสั่งให้สอบสวนอุบากองทันที
ปรากฏว่าอุบากองเป็นคนไทยเกิดในเมืองไทย เพราะมีพ่อเป็นเชื้อสายพม่า แต่แม่เป็นเชื้อสายคนไทยแถบเมืองธนบุรี พระองค์จึงทรงพระเมตตาพระราชทานเสื้อผ้าและให้นำไปจำขังไว้ที่คุกวัดโพธาราม (วัดพระเชตุพนฯ ในปัจจุบันนี้) แถวกรมรักษาดินแดนเดี๋ยวนี้
ระหว่างที่อุบากองกับพวกถูกจองจำคุมขังที่คุกวัดโพธิ์เขาได้สอนตำรายันต์ยามยาตราให้กับพรรคพวก ซึ่งยามนี้สามารถแหกคุกที่คุมขังไว้ เมื่อพรรคพวกสามารถเรียนยามยาตรมได้ตามที่ตนบอกแล้ว อุบากองก็ทำพิธีตามหลักโหราศาสตร์ได้ฤกษ์งามยามดี จึงสามารถพากันแหกคุกวัดโพธิ์หลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย โดยอุบากองกับพรรคพวกพากันหลบหนีไปยังเมืองพม่าได้
แต่ยามที่อุบากองบอกกับพรรคพวกนี้นั้น บังเอิญมีนักโทษพม่าที่เป็นเชื้อสายไทย บางคนไม่ได้หลบหนีไปด้วย จึงบอกเล่ากับผู้คุ้มนักโทษจึงมีการนำมาเล่าเรียนกันและให้ชื่อยามยาตรานี้ว่า ยามอุบากอง ตามที่เจ้าจองผู้มาสอนชื่อเดิมว่า อุบากอง นั่นเอง
อนึ่ง ยามดังกล่าวปรากฏว่า มีผู้นับถือว่าแม่นยำ ได้ผลจริง ๆ ด้วย จึงศึกษาเล่าเรียนสืบ ๆ กันมาตราบเท่าทุกวันนี้
ลักษณะยามอุบากอง (พม่าแหกคุก) มีดังนี้
ข้อควรคำนึง
ก. ทิศผีหลวง เมื่อรู้ว่ามีผีหลวงอยู่ทิศใด ไม่ควรคำนึงทางไปทางนั้น จะนั่งในเรือนใคร อย่าได้นั่งหันหน้าไปทางนั้นเลย ไม่ดีเลย
ข. ทิศเทพเจ้า เมื่อจะทำการมงคล หรือแม้จะเสี่ยงโชคทางการพนัน นั่งไปทางทิศที่เทวดาประจำ จะมีชัย และคลาดแคล้วปัจจามิตรแล
ค. ทิศหลวงเหล็ก เมื่อจะเดินทาง ไม่ควรเดินทางให้ตรงกับทิศหลาว เหล็กตก เพราะจะแพ้ภัยตัวเอง หรือจะเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องศัตสราวุธ ประสพภยันอันตราย ระหว่างทางแล
ง. ยามอุบากอง (พม่าแหกคุก) ตำรานี้เป็นของชาวพม่ารามัญ ซึ่งอุบากองเป็นนายทหารใหญ่ถูกข้าศึกจับขังคุก แต่สามารถหลบหนีแหกคุกหนีออกมาได โดยอาศัยยามดังกล่าวนี้ ท่านผู้รู้ว่า แม่นยำยิ่งนักแล |