ข้าพเจ้าเป็นคนภูเขาขนานแท้และดั้งเดิม ของเผ่ามูเซอแดงแห่งหนึ่ง พวกคนมูเซอดำรงชีวิตอยู่ด้วยการทำไร่เลื่อนลอย ย้ายถิ่นบ่อย ๆ ด้วยสาเหตุเมื่อทำไร่ไปนาน ๆ ที่เดิมดินจะจืด ปลูกอะไรจะไม่ได้ผลผลิดเท่าที่ควร อาชีพหลัก ๆ ของพวกมูเซอคือการเกษตร ปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด และ ฯลฯ เมื่อเวลาว่างจะออกไปล่าสัตว์ เพื่อนำมาเป็นอาหาร ข้าพเจ้ากับน้าชาย หลังจากทำเสร็จจากงานไร่แล้ว มักจะชวนกันออกไปล่าสัตว์ เพื่อนำเอาเนื้อมาเก็บไว้เป็นเสบียงอาหารเป็นประจำ ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่แล้วแต่จะหามาได้
เมื่อข้าพเจ้ากับน้าเจอสัตว์เหล่านั้น จะใช้อาวุธปืนยิงทันที พอได้สัตว์เคราะห์ร้ายเหล่านั้นแล้วก็จะแบกกลับบ้าน แต่ระหว่างทางขากลับนั้นข้าพเจ้ากับน้าจะทำการขัดหลาวไม้ไผ่ เพื่อดักสัตว์ตามด่านสัตว์ ที่สัตว์เหล่านั้นอาศัยเป็นทางเดินประจำ
เมื่อสัตว์เคราะห์ร้ายเดินสดุดเชือก หลาวไม้ไผ่ก็จะทำงานทันทีโดยพุ้งเข้าแทงสัตว์ตัวที่เข้ามาสดุดเชือกให้ตายคาที่ บางตัวมีความอดทนตายยากหน่อย ก็จะกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่บริเวณนั้น
พอรุ้งเช้าข้าพเจ้ากับน้าจะออกไปดูหลาวที่ดักไว้ในแต่ละแห่ง บางแห่งก็จะพบสัตว์จะถูกหลาวพุ้งเสียบตายคาที่ แต่บางแห่งก็ไม่ตายน้าของข้าพเจ้าจะใช้ปืนยิงซ้ำให้ตาย จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ข้าพเจ้ากับน้าได้กระทำในสิ่งที่ว่านี้ โดยไม่รู้ว่ามันเป็นการสร้างบาปสร้างกรรมอย่างมหันต์ การเบียดเบียนชีวิตของสัตว์ทั้งหลายเพื่อเอามาเป็นอาหารก็ดี แต่จะรู้ไหมว่าสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นก็มีชีวิตจิตใจรักชีวิตและกลัวตายเหมือนกับมนุษย์เรา ๆ ทั้งหลาย ที่ไม่ต้องการให้ใครมาเบียดเบียนทำร้ายชีวิตเช่นกัน มีครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าต้องจดจำไปตลอดชีวิตอย่างไม่มีวันลืม เพราะเช้าวันหนึ่งข้าพเจ้ากับน้าได้ชวนกันออกไปตรวจตามจุดที่ได้วางหลาวไว้ เมื่อไปถึงพบหมีควายตัวหนึ่ง ถูกหลาวไม้ไผ่พุ้งเสียบข้างลำตัว ข้าพเจ้าและน้าคิดเอาเองว่าหมีควายตัวนั้นคงจะตายแล้ว น้าจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หมีควายตัวนั้นลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที ทั้ง ๆ ที่หลาวไม้ไผ่ยังเสียบเด่อยู่ มันใช้อุ้งตีนตบเข้าไปที่ใบหน้าของน้าหลายที จนหนังและใบหน้าพร้อมลูกนัยน์ตาหลุดออกมาทั้งสองข้าง แล้วร่างของน้าก็ล้มลงร่างฟาดกับพื้นขาดใจตายทันที โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำเดียว
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมาก หมีควายตัวนั้นก็หมดแรงล้มลงขาดใจตายเคียงข้างกับน้าชายนั้นเอง ข้าพเจ้าตกตะลึงต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตำหูตำตา แทนที่จะเข้าไปช่วยเหลือหรือนำข่าวร้ายมาไปบอกแก่ญาติพี่น้องให้รับรู้ กลับกลายเป็นว่าข้าพเจ้าบันดาลโทสะ โกรธอาฆาตแค้นหมีตัวนั้น ที่ตบน้าจนถึงแก่ความตาย
ขณะเดียวกัน ข้าพเจ้ามองเห็นลูกหมีบนต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลกันนั้นจึงรู้ว่ามันเป็นหมีแม่ลูกอ่อน ที่ยังต้องดูแลลูก ๆ ของมัน เจ้าลูกหมีถูกอารมณ์แค้นของข้าพเจ้าบดบังเสียแล้ว โกรธแม่หมีกลับมาอาฆาตลูกหมีน้อย ซึ่งยังไม่รู้เดียงสา ด้วยความแค้นแม่หมีที่คร่าเอาชีวิตของน้าข้าพเจ้าไป จึงได้ปีนต้นไม้ขึ้นไปหาลูกหมี พอได้ระยะปืนจึงลั้นกระสุนทันที ด้วยแรงอาฆาตแม่หมีที่ทำให้น้าตาย ลูกหมีที่ยังเล็กและด้วยสัญชาติญานก็พอจะเข้าใจว่ามีมนุษย์ใจร้ายหมายจะเอาชีวิตของมัน มันก็มีความโกรธแค้นเคืองที่แม่ของมันถูกมนุษย์ฆ่าตาย เยี่ยงมนุษย์ ลูกหมีกระโจนใส่ข้าพเจ้าขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็เหนี่ยวไกปืนสวนออกไป ตอนนั้นชีวิตแลกด้วยชีวิต ร่างของลูกหมีที่มีน้ำหนักมากลอยลงมาปะทะกับข้าพเจ้าจนพลัดตกจากต้นไม้พร้อม ๆ กัน สลบไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ มารู้สึกตัวอีกครั้งพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่บนบ้านพร้อมญาติ ๆ ซึ่งพวกเขาบอกว่าข้าพเข้าเจ้าสลบไปถึง 2 วัน
ระหว่างที่ข้าพเจ้ากับน้าไม่กลับบ้าน พวกญาติเขาจึงได้ออกตามหา จึงมาพบพวกข้าพเจ้านอนสลบอยู่ มีน้า แม่หมี ลูกหมี นอนตายเรียงกัน จึงได้ทำการฝังทั้งสัตว์และคนไว้ตรงนั้น ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นได้รับบาดเจ็บแขนขาหัก ระหว่างที่ป่วยอยู่นั้น ข้าพเจ้าจะโทษผีทั้งหลายทั้งมวล ผีฟ้า ผีป่าที่เสียแรงนับถือ ไม่เห็นช่วยคุ้มครองให้พวกเราปรอดภัยเลย ตอนนั้นพวกข้าพเจ้ายังไม่มีศาสนาอะไรนอกจากผีป่า ผีเขา และยังไม่รู้บาปบุญคุณโทษแต่อย่างใด แขนขาหัก กว่าจะรักษาหายก็กินเวลาเข้าไปถึง 2 ปี
หลังจากอาการทุเลาและแข็งแรงแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นปกตินัก ข้าพเจ้าก็หาได้หลาบจำไม่ ยังชักชวนเพื่อน ๆ เข้าป่าล่าสัตว์อีก จะด้วยบุญของข้าพเจ้าหรืออย่างไรไม่ทราบทำให้ได้พบสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ระหว่างทางขึ้นเขาลงห่วยที่จะไปล่าสัตว์นั้น ข้าพเจ้าพบกับพระธุดงค์องค์หนึ่ง ปักกลดอยู่ในป่าตรงทางที่จะผ่าน
ข้าพเจ้าจึงแอบดูพฤติกรรมของพระจึงไม่ได้ออกไปล่าสัตว์ดั่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่รู้จักพระรู้จักเจ้าจึงแอบดูอยู่ทั้งวันทั้งคืนก็เห็นท่านนั่งอยู่ในกลด บางครั้งก็ออกไปและกลับเข้ากลด เป็นอยู่อย่างนั้นหลายรอบ จนข้าพเจ้าสงสัย
วันรุ่งขึ้นจึงชวนเพื่อนไปถามพระองค์นั้น ท่านถามพวกข้าพเจ้าว่าจะไปที่ไหนกัน ข้าพเจ้าจึงตอบไปว่าจะไปล่าสัตว์ ท่านจึงได้อธิบายถึงการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และบาปบุญ คุณโทษ จะเป็นเงาตามตัวไปหลายภพหลายชาติ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า แม้ตายไปแล้วกรรมนั้นก็จะตกอยู่กับลูกหลานที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว กรรมที่ก่อไว้หากรุนแรงก็จะตามมาตอบสนองรวดเร็วเช่นกัน คำนี้นี่เองทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องของน้าที่ตายไป เพราะหมีแม่ลูกอ่อนตบจนตาย ข้าพเจ้าเพิ่งจะรู้ว่าบาปบุญ คุณโทษเป็นอย่างไร ถ้าไม่ได้พระธดงค์องค์นี้ ท่านสงเคราะห์พูดให้ข้าพเจ้าหูตาสว่างแล้ว หูตาข้าพเจ้าคงบอด จิตใจไม่สงบไม่ตลอดชีวิต และคงสร้างบาปกรรมไปจนตลอดชีวิตเช่นกัน ท่านทั้งหลายลองคิดดูเถอะว่าข้าพเจ้านั้นจะมีหนี้กรรมติดตัวไปอีกสักเท่าไหร่
บัดนี้ข้าพเจ้าได้เลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยสิ้นเชิง เลิกนับถือผีป่า ผีฟ้าทั้งหลาย หันหน้าเข้าพุทธศาสนานำลูกหลานเข้ามาบวช ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะยึดมั่นในพุทธศาสนาต่อไปและจะทำแต่คุณงามความดีไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ .....