**
  


กรรมใดใครก่อ

    ประสบการณ์เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวของข้าพเจ้าเองนานมาแล้ว ที่จังหวัดระนองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ตอนนั้นปิดเทอม ข้าพเจ้าไปเที่ยวบ้านป้า ป้าแกมีลูกชายอยู่คนเดียว ชื่อพี่นัท พี่นัทเป็นคนเกเรชอบชกต่อย ติดเหล้า ติดการพนัน ทุกอย่างที่ไม่ดีพี่นัทแกถนัดมาก ทุกวันจะต้องมีเรื่องมาให้ป้าแก้ปัญหาอยู่เป็นประจำ ถึงพี่นัทจะสำมะเลเทเมา เเกเรอย่างไรแกก็เป็นลูกที่ป้ารักมาก

    พี่นัทจะอยู่บ้านก็เฉพาะตอนกลางคืน ส่วนกลางวันออกไปเล่นการพนัน หรือไม่ก็หาเรื่องชกต่อยกับใครไม่เว้น พอตอนเย็นจะชวนเพื่อนมาตั้งวงเหล้า

    มีอยู่วันหนึ่งที่วัดมีงานประจำปี ป้ากับข้าพเจ้าไปวัดกันแต่เช้า ปล่อยให้พี่นัทอยู่บ้านคนเดียว ตกเย็นพี่นัทออกไปหาเพื่อนชวนกันมากินเหล้าอย่างเคย วันนี้พี่นัทเมามากจนแทบครองสติไม่อยู่ แล้วไม่มีใครรู้ว่าพี่นัทหายไปไหน สักพักได้ยินเสียงรถไฟเปิดหวูดดังลั้น เพราะปกติถึงบ้านจะอยู่ใกล้ทางรถไฟ แต่ไม่เคยได้ยินเสียงหวูดเปิดดังลั้นขนาดนี้เลย

    มีเสียงตะโกนมาว่า พี่นัทเมามากไม่ยอมลงมาจากทางรถไฟ ป้ากับข้าพเจ้ารีบวิ่งไปดู ก็เห็นพี่นัทยืนหมุนอยู่บนรางรถไฟคล้ายๆกับไปไหนไม่ถูกและไม่รู้ว่ามีรถไฟวิ่งมา เสียงป้าและคนจำนวนมากตะโกนเรียกกันให้ลั้น

    “ลูกนัท ๆ ๆ ลงมาเร็วๆ รถไฟมาแล้ว”

    ป้าตะโกนลั้นกว่าใครเพื่อน แล้วป้าก็วิ่งไปที่ร่างของพี่นัทดีแต่ว่าข้าพเจ้าจับตัวของป้าไว้ทัน ทันใดนั้นเองรถไฟก็พุ้งชนพี่นัทเต็มที่ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ร้องกันวี๊ดว๊ายลั้น ท่ามกลางเหตุการณ์สยองนั้น ร่างของพี่นัทกระเด็นลงมาตกที่แทบเท้าของป้า แขนขาเละแหลกละเอียดติดอยู่ข้างตัวรถไฟๆเบรคเอี๊ยดๆๆๆเสียงลั้นจนแสบเก้วหูกว่าจะจอดสนิท เลือดของพี่นัทสาดกระเส็นไปทั่วส่งกลิ่นคราวฟุ้งไปหมด

    ข้าพเจ้าช๊อคและหมดสติอยู่ตรงนั้นเอง มารู้สึกตัวอีกก็มานอนอยู่ที่เตียงในโรงพยาบาลและมารู้ข่าวว่าป้าเป็นบ้าไปแล้ว ข้าพเจ้ากลัวมาก เพราะไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายเช่นนี้มาก่อน ทุกวันที่คิด ภาพนั้นยังติดตาไม่หาย ข้าพเจ้าไม่กล้าไปที่บ้านป้าอีกเลย และได้ข้อคิดอย่างหนึ่งถึงคนทำชั่วอย่างพี่นัท ที่ทั้งชีวิตไม่เคยมีความดีให้ใครเห็นเลย ข้าพเจ้าสาบานว่าจะไม่ขอพบคนพาล คนกินเหล้าเมายา ชอบพาลหาเรื่องชาวบ้าน และการพนันขันต่อ เพราะมันจะนำความวิบัติมาให้กับคนรอบข้างและคนใกล้ชิด



 


มีหมอดู
 

 
ชมรมบ้านโหรเทวเทพ


หมอดูแม่นๆ